3 เทคนิคสำหรับครอบครัว สร้างภูมิคุ้มกันใจให้บุตรหลาน

เพราะลูกคือดวงใจของพ่อแม่ การเอาใจใส่ดูแลเรื่องอาหารการกินและสุขภาพเป็นวิธีที่พ่อแม่ทุกคนเอาใจใส่และเฝ้าดูพัฒนาการความเจริญเติบโตทางร่ายกายของบุตรหลาน และทำให้เรารู้ว่าภูมิคุ้มกันของร่างกายสามารถสร้างเสริมได้ด้วยการรับประทานอาหาร เป็นต้น แล้วภูมิคุ้มกันด้านจิตใจล่ะ พ่อแม่เคยตระหนักหรือไม่ว่า เราจะสร้างให้ลูกได้ด้วยวิธีใด ท่ามกลางสภาพแวดล้อมทางสังคมและเศรษฐกิจที่เปลี่ยนไป เราไม่สามารถดูแลบุตรหลานได้ตลอดเวลา เมื่อเขาอยู่นอกบ้านหรือคลาดจากสายตาเราไป ดังนั้นการสร้างภูมิคุ้มกันทางใจคือเกราะป้องกันที่ดีที่สุดให้แก่ลูก 3 เทคนิคการสร้างภูมิคุ้มกันจิตใจให้แก่บุตรหลานในครอบครัว ได้แก่ 1.การแสดงความรักและแก้ปัญหาให้ลูกด้วยอารมณ์ที่แจ่มใส เพราะสิ่งแรกที่ลูกเห็นก็คือสีหน้าและแววตาของคนเป็นพ่อแม่ รอยยิ้มของพ่อแม่จะส่งผลโดยตรงต่อจิตใจของลูก หากพ่อแม่ฝึกลูกให้อารมณ์ดี เท่ากับมอบภูมิคุ้มกันต่อความคิดด้านลบให้กับเขา ให้เขามีมุมมองด้านบวกและเห็นถึงคุณค่าของตนเอง สิ่งเหล่านี้เปรียบเสมือนวัคซีนป้องกันเชื้อโรคร้ายทางอารมณ์ที่ลูก ๆ ต้องเจอเมื่อเติบโตขึ้นไปใช้ชีวิตในสังคม 2.การให้เวลาทำกิจกรรมร่วมกันภายในครอบครัวอย่างสม่ำเสมอ ปลูกฝังพฤติกรรมที่เหมาะสมให้ลูกรู้จักปรับตัวตั้งแต่ในวัยเด็ก โดยลูก ๆ จะมีพัฒนาการจากพฤติกรรมของพ่อแม่ในการเล่นหยอกล้อกับลูก จดจำการเคลื่อนไหวร่างกาย หรือออกกำลังกายต่าง ๆ เป็นแบบอย่าง นำไปพัฒนากระบวนการสร้างความกระฉับกระเฉงและแข็งแกร่งให้กล้ามเนื้อ ทั้งยังช่วยให้ระบบไหลเวียนโลหิตทำงานดีขึ้น ส่งผลต่อระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ผลพลอยได้จากการพฤติกรรมการเล่นดังกล่าว ยังเป็นการกระตุ้นให้ร่างกายหลั่งสารแห่งความสุขที่เรียกว่า เอนดอร์ฟิน ซึ่งส่งผลดีต่อสุขภาพจิตที่ดีของลูกอีกด้วย 3.การให้ความรู้และทักษะที่ครบถ้วน เพื่อนำไปใช้ได้ในชีวิตประจำวัน เพราะไม่มีใครเก่งมาตั้งแต่เกิด มนุษย์ล้วนมีพัฒนาการจากการเรียนรู้ นับตั้งแต่อยู่ในครรภ์มารดา การเจริญเติบโตอย่างสมดุลทั้งร่ายกายและสติปัญญาเป็นสิ่งที่พ่อแม่ควรตระหนักและเริ่มต้นที่บ้าน ด้วยการสอดแทรกความรู้ จริยธรรม ขนบประเพณีอันดีงาม ตลอดจนหลักธรรมคำสอนในศาสนา เพื่อให้ลูกนำไปเป็นหลักคิดและประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมกับช่วงวัยและสามารถแก้ไขสถานการณ์ ตลอดจนปัญหาต่าง ๆ ได้อย่างทันท่วงที ไม่เสียเวลาและเสียใจไปกับเรื่องรกสมองที่ชักจูงให้มีความคิดติดลบและไม่เกิดประโยชน์ต่อชีวิตนั่นเอง จะเห็นได้ว่าทั้ง… Continue reading 3 เทคนิคสำหรับครอบครัว สร้างภูมิคุ้มกันใจให้บุตรหลาน

ปลากัดไทย ลายไตรรงค์ สัญลักษณ์แห่งความภาคภูมิใจของคนไทย

กระแสความนิยมปลากัดไทย กำลังกลับมาเป็นที่ฮือฮาอีกครั้ง หลังจาก อแมนด้า ออบดัม มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2020 สวมใส่ชุดประจำชาติ “ไตรรงค์อนงค์นาถสุพรรณมัจฉา” หรือ “ชุดปลากัดไทย” ให้ทั่วโลกได้ยลโฉม ในการประกวดรอบชุดประจำชาติ เวทีมิสยูนิเวิร์ส 2020 ซึ่ง อัครัช ภูษณพงษ์ ดีไซเนอร์นักออกแบบชุดประจำชาติครั้งนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากนางสุพรรณมัจฉาในวรรณคดีและปลากัดลายไตรรงค์ของไทยเรานั่นเอง ดังนั้นวันนี้เราจึงนำเรื่องรางน่ารู้ของปลากัดไทย ลายไตรรงค์ สัญลักษณ์แห่งความภาคภูมิใจของคนไทยมานำเสนอดังนี้ค่ะ “ปลากัดไทย” โดดเด่นเรื่องพฤติกรรมการต่อสู้ ที่คล้ายคลึงกับลักษณะนิสัยของคนไทยที่มีความรักและหวงแหนประเทศชาติ ในยามรบก็พร้อมที่จะปกป้องแผ่นดินไทยจากข้าศึกศัตรูด้วยสติปัญญาและความกล้าหาญ “ปลากัดไทย” เป็นปลาพื้นเมืองที่มีลักษณะสวยงาม พบข้อมูลจากอนุกรมวิธาน บันทึกไว้เมื่อปี คศ.1909 ว่า ปลากัดไทย มีแหล่งกำเนิดอยู่ในลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาและตามแหล่งน้ำทั่วทุกภูมิภาคของประเทศไทย ปลากัดสายพันธุ์ดั้งเดิมจากธรรมชาติเรียกว่า “ปลากัดป่า” มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Betta splendens หรือชื่อสามัญว่า Siamese Fighting Fish ต่อมาได้รับการพัฒนาสายพันธ์ุจนกระทั่งได้ปลากัด “ลายธงไตรรงค์” (Thai Flag Betta) ซึ่งมีเอกลักษณ์ของลวดลาย คล้ายธงชาติไทย หรือ ธงไตรรงค์ มี 3 สีได้แก่… Continue reading ปลากัดไทย ลายไตรรงค์ สัญลักษณ์แห่งความภาคภูมิใจของคนไทย

เมื่อทำงานจากที่บ้านแล้วมีปัญหา ควรแก้ไขอย่างไร

ทุกวันนี้การทำงานจากที่บ้านให้ความสะดวกหลายอย่าง ทั้งประหยัดเวลา ประหยัดค่าเดินทาง แต่หลายคนไม่มีทางเลือกเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ดูเหมือนว่าจะไม่ยุติในเร็ววัน แม้ว่าความสะดวกสบายในบ้านมีข้อดี แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าอุปสรรคก็มีเหมือนกัน บางคนเสพติดการทำงานและใช้เวลานั่งโต๊ะนานเกินไป ทำงานไม่หยุดแม้เป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ จึงมีปัญหาสุขภาพ ปวดคอ ปวดหลัง สุดท้ายทุกข์ทนจากความเครียดและสุขภาพย่ำแย่เรื้อรัง 1.สายตาอ่อนล้า ปวดคอหรือปวดหลังไม่ต้องสงสัยเลยว่าการนั่งติดโต๊ะทำงานอยู่กับหน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน ส่งผลเสียต่อสุขภาพทำให้สายตาอ่อนล้า ปวดคอหรือปวดหลัง สิ่งที่ควรทำคือสวมแว่นตาชนิดเลนส์บลูบล็อกเลนส์หรือใช้หน้าจอชนิดป้องกันรังสีเพื่อช่วยปกป้องดวงตาไม่ให้ตาแห้ง หยุดพักชั่วโมงละ 2-3 ครั้ง พักสายตาด้วยการหลับตาอย่างน้อย 10 นาทีเป็นระยะ ๆ หากยังรู้สึกว่าตาแดงตาแห้งอยู่อีกควรปรึกษาขอคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญด้านสายตา นอกจากนั้นควรเลือกเก้าอี้ที่รองรับสรีระเป็นอย่างดี ขยับเปลี่ยนท่านั่งไม่อยู่ท่าเดิมเป็นเวลานาน ลุกขึ้นเดินไปเดินมาบ้าง หากยังมีอาการปวดคอหรือปวดหลังมากควรปรึกษาแพทย์ 2.โรคชามือโรคชามือเกิดจากการพิมพ์คีย์บอร์ดคอมพิวเตอร์นานหลายชั่วโมงไม่หยุดหย่อน ขยับมือและข้อมือซ้ำ ๆ ตำแหน่งเดิมเป็นเวลานานทำให้เกิดภาวะกดทับเส้นประสาทเป็นสาเหตุของอาการชานิ้วมือและฝ่ามือ ต้องผ่าตัดถึงจะหายดี ระหว่างทำงานควรหยุดพักเป็นระยะ และประคบเย็นเพื่อให้อาการดีขึ้น 3.ความเครียดปัญหาของคนทำงานจากที่บ้านคือทำงานไม่รู้จักเวลา ขาดการวางแผน จึงใช้ชั่วโมงนานเกินไปเกิดส่งผลเสียต่อสุขภาพและเกิดความเครียดสะสม นอนไม่หลับ เหนื่อยล้า ปวดศีรษะ หากนั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์เป็นเวลา 12-14 ชั่วโมงเสี่ยงเกิดปัญหาสุขภาพหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นโรคอ้วน โรคความดันโลหิตสูง ภาวะโรคหัวใจ และปัญหาอื่น ๆ สิ่งที่ควรปรับเปลี่ยนสิ่งแรกคือพยายามบริหารเวลาทำงาน กำหนดชั่วโมงให้เหมือนเวลาทำการปกติ วางแผนล่วงหน้าและทำงานให้เสร็จตามตารางเวลา นอนอย่างน้อย… Continue reading เมื่อทำงานจากที่บ้านแล้วมีปัญหา ควรแก้ไขอย่างไร

3 ข้อดีของการตรวจร่างกายประจำปีอย่างสม่ำเสมอ

เพราะสุขภาพดีไม่มีขาย ถ้าอยากได้สุขภาพดีมาครอบครองก็จำเป็นต้องพึ่งตัวช่วยสักหน่อย ซึ่งหลายคนทราบดีอยู่แล้วว่าการเป็นเจ้าของสุขภาพดีนั้น จุดเริ่มต้นคือควรใส่ใจเรื่องการรับประทานอาหารควบคู่ไปกับการออกกำลังกาย และนอกจากสองวิธีนี้แล้วการตรวจสุขภาพประจำปียังเป็นอีกหนึ่งวิธีที่เปรียบเสมือนการติดตามความผิดปกติภายในร่างกายอย่างสม่ำเสมอ แต่ถึงอย่างนั้นก็มีหลายคนละเลยการตรวจร่างกาย เพราะฉะนั้นลองมาดูกันว่าการตรวจร่างกายประจำปีมีข้อดีอย่างไรที่ไม่ควรมองข้าม 1.ตระหนักถึงความสำคัญของสุขภาพเสมอเพราะร่างกายคนเราเสื่อมถอยเรื่อย ๆ ยิ่งหากอายุมากขึ้นจะสังเกตได้ว่าปัญหาสุขภาพต่าง ๆ จะตามมา จะเห็นว่าการตรวจสุขภาพประจำปีทุกปี ค่าเลือด น้ำหนัก รวมถึงประสิทธิภาพการทำงานต่าง ๆ ของร่างกายมักถดถอยลงตามกาลเวลา เพราะฉะนั้นการตรวจเช็กสุขภาพตัวเองเสมอจะทำให้คุณตระหนักเรื่องสุขภาพและมีความตื่นตัวในการกลับมาดูแลสุขภาพให้ดีขึ้นอีกครั้ง 2.ปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตได้ทันเวลาผลตรวจร่างกายที่ออกมาเป็นตัวเลขนั้นคือตัวชี้วัดปัญหาสุขภาพได้เป็นอย่างดี ดังนั้น การตรวจร่างกายเป็นประจำทุกปีจะทำให้คุณปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตได้อย่างทันท่วงที ก่อนที่ร่างกายจะเสื่อมถอยหรือมีปัญหาสุขภาพตามมา เช่น หากตัวเลขน้ำตาลในเลือดสูงเกินเกณฑ์ที่กำหนด อย่างน้อยจะได้ลดการบริโภคน้ำหวานหรือของหวาน หรือหากคอเลสเตอรอลสูงเกินไป คุณจะได้รู้ตัวว่าควรออกกำลังกายและลดบริโภคอาหารประเภทไขมัน เป็นต้น 3.ติดตามสิ่งผิดปกติในร่างกายได้ทันท่วงทีหลายครั้งที่คนเราละเลยการดูแลสุขภาพจนเกิดเป็นปัญหาสุขภาพตามมาในอนาคต แต่ข้อดีของการตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้คุณติดตามสิ่งผิดปกติที่เกิดขึ้นภายในร่างกายได้ทันเวลา เช่น หากตรวจพบว่ามีภาวะความดันโลหิตสูง นอกจากจะปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตแล้ว แพทย์อาจแนะนำให้รับประทานยาเพื่อปรับลดความดันโลหิต เพราะความดันโลหิตสูงมีโอกาสทำให้เกิดโรคอื่น ๆ ตามมา เช่น โรคหลอดเลือด โรคเบาหวาน โรคหัวใจ หรือหากตรวจพบค่าเลือดอันผิดปกติซึ่งเป็นสัญญาณการเกิดโรคร้ายก็มีโอกาสตรวจเช็กอย่างละเอียดและรักษาได้อย่างทันท่วงที สำหรับใครที่ตรวจร่างกายเสมอ แม้จะไม่ต้องกังวลเรื่องสุขภาพเท่าไหร่ เพราะติดตามผลอย่างสม่ำเสมอ แต่ถึงอย่างนั้นก็ควรใส่ใจดูแลสุขภาพ เริ่มต้นง่าย ๆ ด้วยการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ หลีกเลี่ยงอาหารประเภทไขมัน น้ำตาล อันเป็นตัวการทำลายสุขภาพ และนอกจากเรื่องอาหารการกินแล้ว ควรแบ่งเวลาเพื่อออกกำลังกาย… Continue reading 3 ข้อดีของการตรวจร่างกายประจำปีอย่างสม่ำเสมอ

ระวัง 5 พฤติกรรมทำ “ผมร่วง” ก่อนวัยอันควร

เชื่อว่าหลายคนเวลาสระผมหรือหวีผมแล้วต้องตกใจเมื่อเห็นเส้นผมของตัวเองหลุดร่วงออกมาเป็นกำ ๆ บางคนถึงกับผมบางเป็นหย่อม ๆ จนขาดความมั่นใจเมื่อต้องออกจากบ้าน สำหรับใครที่กำลังเจอปัญหานี้ทั้งสุภาพบุรุษและสุภาพสตรีแล้วไม่รู้ว่าสาเหตุเกิดจากอะไรและจะสามารถป้องกันได้อย่างไร วันนี้ เราจึงมี 5 พฤติกรรมทำ “ผมร่วง” ก่อนวัยอันควรที่ต้องพึงระวังมาฝากกัน 1.ใช้ไดร์เป่าผมมากเกินไปการใช้ไดร์เป่าผมที่เป็นลมร้อนบ่อยเกินไป นอกจากจะทำให้ผมแห้งเสีย ไม่มีน้ำหนักแล้ว ความร้อนจากไดร์เป่าผมยังทำให้หนังศีรษะแห้ง เสียความชุ่มชื้น และเกิดการระคายเคือง ซึ่งเป็นสาเหตุของรังแค เมื่อหนังศีรษะซึ่งเป็นเหมือนที่ยึดเกาะของเส้นผมอ่อนแอ เส้นผมก็ไม่สามารถยึดเกาะอยู่ได้ สุดท้ายก็หลุดร่วงนั่นเอง 2.ใช้สารเคมีย้อมผมมากเกินไปสำหรับใครที่เป็นสายแฟชั่นชอบทำสีผมหรือย้อมสีผมบ่อย ๆ บางคนแทบจะเปลี่ยนสีผมทุกเดือนเลยก็มี ซึ่งควรระวังเป็นพิเศษ เพราะสารเคมีบางชนิดที่ผสมอยู่ในน้ำยาย้อมผม อาจทำให้ผมแห้งเสีย แตกปลาย และก่อให้เกิดการระคายเคืองหนังศีรษะ จนผมหลุดร่วง แถมบางกรณีอาจทำให้ผมถูกกัดจนเปลี่ยนเป็นสีขาวก่อนวัยอันควรอีกด้วย 3.หวีผมย่อยเกินไปสาว ๆ หลายคนมักมีพฤติกรรมชอบหวีผมวันละหลาย ๆ ครั้ง บางคนเข้าห้องน้ำเป็นไม่ได้ต้องหยิบหวีขึ้นมาหวีผมทุกครั้ง ซึ่งการหวีผมบ่อย ๆ จนเกินความจำเป็นแบบนี้ นอกจากจะทำให้ผมขาดหลุดร่วงง่ายแล้ว การเสียดสีเส้นผมกับหวียังอาจทำให้ผมเสียความชุ่มชื้นจนแห้งเสียง่ายอีกด้วย 4.สระผมบ่อยเกินไปหลายคนมักคิดว่าการสระผมบ่อย ๆ นั้นจะดีต่อสุขภาพผม บางคนสระผมทุกวัน วันละหลายครั้งก็มี ซึ่งความจริงแล้ว การสระผมบ่อย ๆ นอกจากจะทำให้เส้นผมเสียความชุ่มชื้นตามธรรมชาติแล้ว ยังทำให้หนังศีรษะแห้งจนอาจเกิดอาการคัน ซึ่งจะกลายเป็นรังแคตามมา จนเกิดผมร่วงเป็นหย่อม… Continue reading ระวัง 5 พฤติกรรมทำ “ผมร่วง” ก่อนวัยอันควร

สร้างเสน่ห์มัดใจ แบบไม่ง้อความสวย

ใครว่าคนสวยต้องมีหน้าตาดี ดูสะสวยเสมอไป ยังมีความสวยในแบบอื่น ๆ ที่ไม่ต้องใช้ความสวยของหน้าตาก็มีนะสาว ๆ บทความนี้เราจะมาบอกทุกคนว่าเสน่ห์มัดใจคนรอบข้างนั้น สามารถสร้างได้โดยที่ไม่ต้องง้อเบ้าหน้าดีหรือหน้าสวยแต่อย่างใด ลองมาดูกันซิว่า การสร้างเสน่ห์ที่ว่านั้นสร้างได้อย่างไรกันบ้าง เป็นคนเฟรนด์ลี่ คุยได้กับทุกคนเคยได้ยินคำพูดนี้ไหม คนสวยอยู่ด้วยแล้วก็เบื่อ แต่คนน่ารักคนเฟรนด์ลี่ อยู่ด้วยแล้วคุยสนุก และยิ่งอยู่ด้วยนาน ๆ ยิ่งหลงรัก ซึ่งเป็นเรื่องจริงที่สังเกตได้ มีคนหน้าตาสะสวยหลายคนที่ไม่มีคนเข้าหา ในทางกลับกันก็มีคนหน้าตาธรรมดาที่มีแต่คนรุมล้อมและเป็นที่รักของคนรอบข้าง ซึ่งสิ่งนี้คือเสน่ห์ที่มัดใจมากกว่าความสวย การเป็นคนเฟรนด์ลี่มีแรงดึงดูดให้คนเข้าหามากกว่าคนที่สวยแต่เย่อหยิ่ง ไม่ว่าจะไปอยู่ในสังคมไหน คนเฟรนด์ลี่ก็สามารถคุยได้กับทุกคน เพราะเขาไม่สร้างกำแพงปิดกั้นมิตรภาพในเรื่องของความสัมพันธ์ ซึ่งความเฟรนด์ลี่นี้ขอให้เข้าใจว่าไม่ใช่การอ่อย ให้ท่า หรือการทอดสะพานแต่อย่างใด คนเฟรนด์ลี่คุยได้กับทุกคน แต่คนที่ตั้งใจอ่อย ให้ท่า ทำให้แค่เฉพาะคนที่อยากมีความสัมพันธ์กับเขาเท่านั้น เป็นตัวของตัวเอง ไม่แอ๊บใสความเป็นตัวของตัวเองนั้น เป็นมหาเสน่ห์ที่แต่ละคนมีติดตัวกันอยู่แล้ว ต่างคนต่างมีเสน่ห์ที่แตกต่างกัน การไม่แอ๊บเนียนเสแสร้งว่าเป็นคนเรียบร้อยแต่แท้จริงแล้วเป็นคนที่พูดจาว่าร้ายคนอื่น แบบนี้แรก ๆ จะดูดี ทำให้คนหลงเชื่อ แต่ใครที่ได้สัมผัสจะรับรู้ได้ว่าคนคนนี้มีบางสิ่งที่ทำให้รู้สึกถึงความไม่ตรงไปตรงมาแอบซ่อนอยู่ และสุดท้ายเมื่อหลุดเผยธาตุแท้ออกมา สิ่งที่เสแสร้งและปิดปังเอาไว้ก็จะถูกเปิดเผย แล้วคนอื่นก็รู้ความจริงอยู่ดี ดังนั้น ไม่ควรเสแสร้งแกล้งทำสิ่งใดเพื่อหวังผลประโยชน์ การเป็นตัวของตัวเองคือการเคารพตนเองและจริงใจกับผู้อื่น หากความเป็นตัวของตัวเองไม่ได้ทำให้คนอื่นเดือดร้อน ก็จงเป็นตัวเองในแบบที่ดีที่สุดเถอะ เพราะจะทำให้มีเสน่ห์ ซึ่งมีค่ามากกว่าความสวยเสียอีก หมั่นหาความรู้ใส่ตัวอยู่ตลอดเวลาเสน่ห์อีกอย่างที่สามารถสร้างกันได้ทุกคน นั่นคือการคอยเติมความรู้ให้กับตัวเองอยู่ตลอดเวลา… Continue reading สร้างเสน่ห์มัดใจ แบบไม่ง้อความสวย

อาหารที่คุณแม่ตั้งครรภ์ไม่ควรรับประทาน

ตลอดการตั้งครรภ์เก้าเดือนเป็นช่วงที่คุณแม่ตั้งครรภ์จำเป็นต้องดูแลสุขภาพเป็นพิเศษ โดยเฉพาะเรื่องของการเลือกอาหารบริโภค เพราะหากไม่เหมาะสมก็จะส่งผลเสียไปถึงลูกในท้องได้ เรามาดูกันว่าอาหารอะไรบ้างที่คุณแม่ควรหลีกเลี่ยงในระหว่างตั้งครรภ์ 1.อาหารสำเร็จรูปบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ขนมกรุบกรอบและอาหารกระป๋องมักมีสารกันเสียในปริมาณที่สูงรวมถึงผงชูรสและเกลือ ซึ่งจะทำให้ระดับความดันโลหิตในคุณแม่ตั้งครรภ์สูงขึ้น และเกิดอาการเวียนศีรษะคลื่นไส้อาเจียน แพ้ท้องได้ง่ายกว่าปกติ 2.ผักเครือเถาเป็นผักที่มีปริมาณสารเพียวรีนสูง ทำให้เกิดการสะสมผลึกที่บริเวณข้อต่อต่าง ๆ เช่น ข้อเท้า ข้อนิ้วมือ นิ้วเท้า หรือที่เรียกว่าโรคเก๊าท์ ซึ่งจะเป็นอันตรายต่อคุณแม่ตั้งครรภ์และได้รับความเจ็บปวดอย่างมากเมื่อน้ำหนักเพิ่มมากขึ้นตามอายุครรภ์ 3.ผลไม้บางชนิดภาวะเบาหวานในระหว่างการตั้งครรภ์จากระดับน้ำตาลในเลือดสูง เป็นสิ่งที่ต้องระมัดระวังอย่างมาก คุณแม่ตั้งครรภ์จึงต้องควบคุมปริมาณผลไม้ที่มีคาร์โบไฮเดรตสูงหรือรสหวานจัด เช่น มะม่วงดิบ มะม่วงสุก ทุเรียน ลิ้นจี่ ลำไย ผลไม้แช่อิ่ม ฯลฯ 4.ชีสและนมบางชนิดชีสและนมบางสูตรมีกรรมวิธีการผลิตที่อาจมีเชื้อแบคทีเรีย อย่าง ลิสทีเรีย เจือปนอยู่ ซึ่งจะเป็นอันตรายต่อเด็กในท้องได้ จึงควรรับประทานอาหารใส่ชีสที่ปรุงสุกแล้ว และบริโภคนมพาสเจอร์ไรส์เท่านั้น 5.เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนสูงการบริโภคชา กาแฟ ช็อกโกแลต สูตรที่มีปริมาณคาเฟอีนสูง อาจทำให้คุณแม่ตั้งครรภ์นอนไม่หลับ ทำให้รู้สึกอ่อนเพลียตลอดทั้งวัน และมีอาการแพ้ท้องได้มากกว่าปกติ จึงต้องเลือกชนิดที่สกัดคาเฟอีนออกแล้ว หรือหลีกเลี่ยงไปดื่มน้ำผลไม้ เช่น น้ำขิง น้ำมะตูม ที่ดีต่อสุขภาพคุณแม่ตั้งครรภ์แทน 6.เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์รวมถึงยาดอง ยาบำรุงต่าง ๆ ที่มีแอลกอฮอล์เป็นส่วนผสม อาจมีผลต่อพัฒนาการของสมองของเด็กในท้อง และเพิ่มความเสี่ยงต่อการพิการและเสียชีวิตได้… Continue reading อาหารที่คุณแม่ตั้งครรภ์ไม่ควรรับประทาน

ผ้าทอใยกล้วย จากภูมิปัญญาล้านนาสู่หัตถกรรมสร้างรายได้

กล้วย คือผลไม้พื้นบ้านที่มีคุณค่าทางโภชนาการมากเสียจนนับไม่ถ้วน ซึ่งนอกจากจะนำส่วนต่าง ๆ ของกล้วยมาปรุงเป็นอาหารรับประทานได้เกือบทุกส่วนแล้ว คนไทยยังนำกาบกล้วยมาต่อยอดสร้างสรรค์งานหัตถศิลป์ได้อย่างน่าชื่นชม โดยมีหน่วยงานภาครัฐ ตลอดจนสถาบันการศึกษาต่าง ๆ ทางภาคเหนือได้ทำการค้นคว้า วิจัยและพัฒนาต่อยอดจากเส้นใยกล้วย จนกลายเป็นผ้าทอใยกล้วยที่มีอัตตลักษณ์จากภูมิปัญญาของชาวล้านนาสู่วงการแฟชั่นระดับประเทศ ด้วยคุณสมบัติพิเศษหลายประการของเส้นใยกล้วย เช่น มีความแข็งแรง ทนทาน เหนียวนุ่ม มันเงา ระบายอากาศ และช่วยระบายอากาศได้ดี จึงสามารถนำไปปั่นผสมกับเส้นใยอื่น ๆ เพื่อนำใช้ในอุตสาหกรรมการทอผ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ กระบวนการผลิตผ้าทอใยกล้วย เริ่มจากการเลือกกล้วยที่ตัดเครือกล้วยออกไปแล้ว นำมาหั่นเป็นท่อน ๆ ยาวท่อนละ 60 เซนติเมตร จากนั้นลอกเปลือกชั้นนอกออก เลือกใช้กาบกล้วยตั้งแต่ชั้นที่ 2 จนถึงชั้นที่ 6 ตัดให้เหลือความกว้างประมาณ 3 นิ้ว ปอกผิวส่วนนอกออกแล้วใช้มีดขูดใยกล้วยตามความยาวจากบนลงล่าง นำใยกล้วยที่ได้ไปผึ่งแดดลมให้แห้ง แล้วจึงย้อมด้วยสีที่ได้จากวัตถุดิบธรรมชาติ เช่น สีแดงได้จากครั่ง หรือ เปลือกสะเดา สีม่วงจากดอกอัญชัน สีเหลืองจากขมิ้น และสีดำจากผลมะเกลือ เป็นต้น” โดยหลังจากทำการย้อมสีเส้นใยกล้วยแล้ว ช่างทอผ้าจะนำไปขึ้นเส้นยืนและทอกี่กระทบ จนกลายเป็นผ้าทอใยกล้วยสำเร็จรูปเพื่อจำหน่ายสร้างรายได้ หรือนำไปใช้ออกแบบ ตัดเย็บ เสื้อผ้า… Continue reading ผ้าทอใยกล้วย จากภูมิปัญญาล้านนาสู่หัตถกรรมสร้างรายได้

ทำไมมีคนนิยมนำผ้าขาวม้า มาตัดเป็นชุดทำงาน

ผ้าขาวม้าเป็นผ้าที่ได้ผลิตมาใช้ประโยชน์หรือมีคุณค่าตั้งแต่สมัยโบราณแล้ว เช่น นุ่งอาบน้ำ นุ่งแทนกางเกง โพกศีรษะกันแดด เป็นต้น และได้มีการพัฒนาเป็นเสื้อผ้าที่เป็น “ชุดผ้าขาวม้า” ซึ่งเป็นที่นิยมโดยเฉพาะกลุ่มคนในวัยทำงาน ก่อนที่ได้พัฒนาและได้ปรับประยุกต์ไปเป็นชุดทำงานขาวม้านั้น ผ้าขาวม้าได้ขึ้นชื่อและเป็นที่ยอมรับแพร่หลายในประเทศสหรัฐอเมริกาอยู่ก่อนแล้ว เนื่องมาจากพระบรมฉายาลักษณ์ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ได้ไปเยือน โดยทรงฉลองพระองค์เสื้อผ้าไทยลักษณะผ้าขาวม้าลายสี่เหลี่ยมที่มีสีดำกับขาวอย่างงดงามจนได้รับคำสรรเสริญจากชาวต่างชาติ หลายคนมองว่า ผ้าขาวม้ามีแต่ชาวบ้านที่นิยมสวมใส่กันเท่านั้น แต่แท้จริงแล้วเป็นที่ชื่นชอบในระดับนานาชาติเลยทีเดียว ทำให้มีการพัฒนาจนได้ตัดเย็บในรูปแบบที่ทันสมัย ประณีตสวยงามมากขึ้นกว่าเดิมและได้สืบทอดจนถึงยุคนี้ โดยเฉพาะที่เป็น “ชุดทำงานผ้าขาวม้า” เมื่อผ้าขาวม้าได้สร้างคุณค่าจนเป็นที่รู้จักให้กับผู้คนมากมาย ก็จะเป็นกำลังใจและสร้างความภาคภูมิใจให้กับคนไทยในการอนุรักษ์ชุดทำงานผ้าขาวม้ารุ่นสู่รุ่นต่อไป ลวดลายของผ้าขาวม้าจะเป็นแบบตารางหรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า ลวดลายสก็อต ลายทางหรือสี่เหลี่ยมก็ได้ซึ่งจะมีสีที่หลากหลายให้เลือกตามใจชอบ เช่น แดง เขียว ส้ม เหลือง ขาว เป็นต้น และแต่ละสีมีความสดใสตัดกันอย่างงดงาม โดยเฉพาะบางชุดจะมีสีตัดซ้อนกัน 4 – 5 สีหรืออาจมากกว่านั้นก็ได้ ด้วยเหตุนี้ ทำให้ชุดทำงานผ้าขาวม้า มีเสน่ห์จนรู้สึกอยากซื้อมาสวมใส่ไปทำงานกัน เนื้อผ้าที่ดีเยี่ยม ไม่แพ้เนื้อผ้าชนิดอื่น ชุดทำงานผ้าขาวม้ามีระดับคุณภาพอย่างดีเยี่ยมเนื่องจากผู้ผลิตชุดผ้าขาวม้า มีความชำนาญและใส่ใจรายละเอียดของชุดทุกขั้นตอนโดยการใช้ศาสตร์และศิลป์ ไม่ว่าจะเป็น การออกแบบลวดลาย การเลือกใช้ผ้าและสีที่ทนทาน การตัดเย็บชุด รวมไปถึงการจัดจำหน่ายในราคาที่เข้าถึงได้ เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าหรือผู้สวมใส่ในกลุ่มวัยทำงานให้ได้มากที่สุด ถึงแม้ว่าในยุคก่อนมีคนใช้หรือสนใจลดน้อยลงไป… Continue reading ทำไมมีคนนิยมนำผ้าขาวม้า มาตัดเป็นชุดทำงาน

โรคที่พบบ่อยในผู้สูงอายุคนไทย

ประเทศไทยถือได้ว่าเป็นสังคมที่มีผู้สูงอายุจำนวนมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งวัยอายุมากกว่า 60 ปีขึ้นไป จัดว่าเป็นวัยที่มีความเสื่อมของร่างกายและอวัยวะภายในต่าง ๆ อย่างมาก ผู้ที่เป็นบุตรหลานจึงต้องสนใจโรคที่เกิดกับปู่ย่าตายาย เพื่อนำไปสู่การรักษาอย่างถูกต้องตรงสาเหตุโดยเร็ว ในบทความนี้ เราจึงขอยกตัวอย่างโรคที่พบบ่อยในผู้สูงอายุคนไทยมาฝากกัน ดังนี้ 1. โรคเบาหวาน โรคเบาหวานเป็นภาวะผิดปกติของระบบการผลิตฮอร์โมนอินซูลินจากตับอ่อน เมื่ออายุมากขึ้นจะทำให้ฮอร์โมนชนิดนี้สร้างน้อยลง ผลที่ตามมาคือระดับน้ำตาลในเลือดสูง ซึ่งจะทำให้เกิดอาการปัสสาวะบ่อย หิวน้ำบ่อยขึ้น แต่ขณะเดียวกันก็รู้สึกอ่อนเพลียและน้ำหนักตัวลดลง หากปล่อยไว้ ไม่ทำการรักษาก็จะทำให้เกิดอาการแทรกซ้อนต่อเส้นประสาทที่ไปเลี้ยงอวัยวะที่สำคัญ คือ ดวงตาและไต ทำให้ตาบอดหรือไตวายได้ 2. โรคข้อเข่าเสื่อม ตามสถิติแล้ว ผู้สูงอายุเพศหญิงจะมีปัญหาข้อเข่าเสื่อมมากกว่าเพศชาย ทั้งนี้ ผู้ที่มีน้ำหนักเกิน หรือเป็นโรคอ้วน จะะทำให้ข้อเข่าเสื่อมได้เร็วยิ่งขึ้นด้วย อาการอักเสบที่เห็นได้ง่าย คือ ข้อเท้าที่บวมนูนขึ้นชัดเจน อาจจะมีอาการขาโก่งผิดปกติ หรือเหยียดขาได้ไม่เต็มที่ร่วมด้วย และหากมีปัญหาโรคกระดูกพรุนร่วมด้วย ก็จะทำให้มีอาการปวดอักเสบรุนแรงขึ้น หลังและขาคดงออย่างรุนแรง 3. โรคทางดวงตา โรคตาที่พบในผู้สูงวัย ได้แก่ จอประสาทตาเสื่อม ต้อหิน ต้อกระจก ฯลฯ ซึ่งจะมีอาการแตกต่างกันไป เช่น ปวดตา ตาพร่ามัว โฟกัสภาพไม่ชัด ฯลฯ… Continue reading โรคที่พบบ่อยในผู้สูงอายุคนไทย