วิ่งเช่นไรให้ถูกลดเสี่ยงอาการบาดเจ็บ

การเดิน แล้วก็การวิ่งเป็นธุระกกรรมการบริหารร่างกายที่ทำเป็นง่าย มัธยัสถ์ ไม่จำเป็นที่จะต้องใช้เครื่องใช้ไม้สอยอาศัยเพียงสถานที่วิ่งที่สมควร มีอากาศถ่ายเทได้สะดวก แถมยังเป็นกิจกรรมการบริหารร่างกายที่ดีต่อระบบต่างๆอีกทั้งข้างใน รวมทั้งด้านนอกร่างกาย 

ผลดีที่ได้จากการเดิน รวมทั้งการวิ่ง

การเดิน รวมทั้งการวิ่งบ่อยๆ เกิดผลดีต่อสภาพทางด้านร่างกายทุกระบบ อีกทั้งร่างกาย แล้วก็จิตใจ นพ.งามภณ อตำหนิเมธิน ผู้ที่มีความชำนาญด้านการวิ่ง และก็การบาดเจ็บจากการวิ่ง พูดว่า การวิ่งนั้นดีต่อสภาพทางด้านร่างกายในหลายๆด้าน

ด้านของสุขภาพรากฐานทั่วๆไป ช่วยรักษาระดับความดันโลหิตให้เป็นประจำ แนวทางการทำงานของหัวใจ ปอด การหายใจดียิ่งขึ้น เพิ่มความฟิต รวมทั้งบริบูรณ์ให้กับร่างกาย ช่วยเพิ่มความแข็งแรงของกล้าม ทำให้ส่วนต่างๆของร่างกายปฏิบัติงานได้ดิบได้ดีขึ้น 

ช่วยค่อยเทาและก็ลดการเสี่ยงสำหรับในการกำเนิดโรคประจำตัวต่างๆเป็นต้นว่าหัวใจ โรคความดันโลหิต เบาหวานช่วยลดระดับไขมันในเลือด และก็ช่วยสำหรับการลดหุ่น แล้วก็ควบคุมน้ำหนักได้ 

ด้านที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพจิต และก็อารมณ์ ก็มีกล่าวว่าการวิ่งช่วยทำให้อารมณ์ แล้วก็สุขภาพที่เกิดขึ้นกับจิตดียิ่งขึ้นช่วยทำให้ปรับระดับเครียดลดลง

กิจกรรมการเดินแล้วก็วิ่ง เหมาะสมกับคนไหนกันบ้าง 

คนทุกเพศ ทุกวัย สามารถใช้การเดิน แล้วก็การวิ่งเป็นกิจกรรมเสริมสร้างการบริหารร่างกายได้ เพียงต้องกำหนดเวลาแล้วก็ระยะทางการวิ่งให้สมควรตามสภาพร่างกาย เป็นต้นว่า กรุ๊ปตอนวัยเด็ก ควรจะวิ่งในระยะทางที่ไม่ไกลมากนัก ในตอนที่กรุ๊ปคนแก่ หรือกลุ่มของผู้คนที่มีโรคประจำตัว ควรจะได้รับข้อเสนอแนะจากหมอผู้ชำนาญ เพื่อระบุ ช่วงเวลาแล้วก็แบบอย่างการวิ่งให้เหมาะเจาะกับความสมบูรณ์ของร่างกาย

การกำหนดจุดมุ่งหมายสำหรับในการวิ่ง ช่วยทำให้การวิ่งไม่มีอันตรายขึ้น

นพ.ดีภณ ยังให้คำปรึกษาต่อว่าต่อขาน การวิ่งนั้นไม่ว่าคนภายในกรุ๊ปใดก็มีการเสี่ยงสำหรับในการเกิดอุบัติเหตุ การบาดเจ็บ รวมทั้ง อาการหัวใจหยุดเต้นได้ สาเหตุจากการวิ่งที่หนักเกินฐานะร่างกาย ขาดการฝึกซ้อมซ้อมที่เป็นประจำ แล้วก็กรุ๊ปที่ไม่รู้จักว่าตัวเองเจ็บไข้ หรือมีโรคประจำตัว ด้วยเหตุดังกล่าวการกำหนดจุดหมายสำหรับในการวิ่งให้แจ่มชัด ก็เลยมีส่วนช่วยสำหรับเพื่อการตารางฝึก รวมทั้งการเตรียมสภาพร่างกาย

กลุ่มของผู้คนที่วิ่งเพื่อสุขภาพ วิ่งไม่หนักเท่าไรนัก สามารถดูลักษณะของการเจ็บป่วยไข้ได้ด้วยตัวเอง รวมทั้งควรจะเริ่มวิ่งอย่างค่อยๆเป็น ค่อยๆไป เบาๆเพิ่มระยะทาง ช่วงเวลาตามความพร้อมเพรียง และก็ความสบูรณ์แข็งแรงของร่างกาย 

ฝูงคนที่อยากได้วิ่งเพื่อการแข่งขันชิงชัยหรือวิ่งในระดับอาชีพ ที่อยากได้ความเจริญวิ่งของตัวเองให้หรูหราสูงมากขึ้นวิ่งได้เร็วขึ้น นอกเหนือจากการซ้อมอย่างค่อยๆเป็นค่อยๆไป และก็บ่อยแล้ว ควรจะได้รับการตรวจเช็คสภาพร่างกายก่อน เพื่อมองว่าตัวเองมีการเสี่ยงสำหรับเพื่อการกำเนิดโรค หรือโรคประจำตัวอะไรหรือเปล่า

กลุ่มชนที่ต้องระวังเป็นพิเศษ เป็นฝูงคนที่มีโรคประจำตัว โรคความดันโลหิต โรคหัวใจ ผู้สูงวัย คนที่มีน้ำหนักตัวมากมาย หรือผู้ที่เป็นโรคเกี่ยวกับกระดูก รวมทั้งข้อต่อ ควรจะได้รับข้อเสนอแนะจากหมอ เพื่อกำหนดรูปแบบรวมทั้งช่วงเวลาที่สมควร 

วิ่งเช่นไรไม่เจ็บ และไม่รังแกสุขภาพ

การบาดเจ็บจากการวิ่ง ส่วนมากมักขึ้นบริเวณศีรษะเขา รองลงมาเป็นส่วนของข้อเท้า ซึ่งการบาดเจ็บพวกนี้สามารถกำเนิดได้กับนักวิ่งทุกคน โดยมีต้นสายปลายเหตุหลักมาจากการเพิ่มระยะ รวมทั้งเพิ่มความเร็วสำหรับในการวิ่ง เร็วเหลือเกิน ในช่วงเวลาที่สภาพร่างกายยังไม่พร้อม การฝึกหัดให้เป็นประจำ แล้วก็ทำอย่างค่อยๆเป็นค่อยๆไป สามารถช่วยลดการเสี่ยงสำหรับในการเจ็บได้

ระยะทางรวมทั้งเวลาสำหรับการฝึกฝนวิ่งที่สมควร

การฝึกฝนการวิ่งอย่างค่อยๆเป็นค่อยๆไป แล้วก็บ่อย สามารถช่วยความก้าวหน้าวิ่งได้ ซึ่งระยะทาง และก็ช่วงเวลาสำหรับเพื่อการซ้อมนั้น จะขึ้นกับภาวะความพร้อมเพรียง และก็ความแข็งแรงของร่างกายเป็นหลัก ไม่เหมือนกันไปตามแต่ละบุคคล ช่วงเวลาการฝึกฝนวิ่งที่เสนอแนะ โดยปกติจะอยู่ที่ราว 150 นาทีต่ออาทิตย์ บางทีอาจเป็นเป็นการเดินหรือ วิ่ง วันละ 40-50 นาที 3-4 วันต่ออาทิตย์ หรือ แม้วิ่งแล้วมีลักษณะอาการอ่อนเพลียเป็นอย่างมาก พักแล้วไม่หายให้ลดเวลาวิ่งลงเหลือ 75 นาทีต่ออาทิตย์ หรือราว 30 นาที 3 วันต่ออาทิตย์ก็ได้ 

กระบวนการพินิจตนเอง เพื่อเลี่ยงการบาดเจ็บจากการวิ่ง

การสังเกตตัวเองสามารถทำเป็นในขณะวิ่ง แม้มีลักษณะอาการซึ่งรู้สึกเจ็บ หรือปวด หน้ามืด เวียนหัวขณะวิ่ง ให้เบาความเร็วสำหรับเพื่อการวิ่งลง หรือ หยุดเพื่อพิจารณาการ ไม่สมควรฝื่นวิ่งต่อ อีกกรณีแม้วิ่งแล้วมีลักษณะอาการซึ่งรู้สึกเจ็บ หรือปวดเรื้อรังเป็นระยะเวลาที่ยาวนาน เกิน 3 – 4 วัน ให้ทดลองพักผ่อน แล้วก็ดูอาการ และก็ทุเลาของกินพื้นฐานด้วยการประคบเย็น และก็ชูขาให้สูง หรือแม้ทำแล้วไม่ดีขึ้น หรือเปล่ามั่นอกมั่นใจในการบาดเจ็บตัวเอง ให้ขอความเห็นหมอรับการวิเคราะห์ แล้วก็เข้ารับการดูแลรักษาถัดไป

ยิ่งไปกว่านี้ควรจะหมั่นฝึก รวมทั้ง บริหารร่างกายอย่างสม่ำเสมอ โดยการทำอย่างค่อยๆเป็น ค่อยๆไป ไม่เพิ่มความเร็วและก็ระยะสำหรับในการวิ่ง เร็วเกินความจำเป็น เพิ่มการฝึกฝนเวทเทรนนิ่ง หรือ บอดี้เวท ซึ่งสามารถทำเป็นกล้วยๆที่บ้าน เพื่อช่วยเสริมความแข็งแรงของกล้าม ก็จะสามารถช่วยลดการบาดเจ็บจากการวิ่งได้อีกทาง

ฝากหน่อย มือใหม่นักวิ่ง

นพ.งามภณ กล่าวตบท้ายสำหรับนักวิ่งมือใหม่ว่า การวิ่งเป็นกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ แม้กระนั้นก็ควรจะทำอย่างเยือกเย็น ไม่ต้องรีบ หรือวิ่งให้เร็วตามคนใด ควรจะหมายกำหนดการวิ่งให้เหมาะสมกับสภาพร่างกายของตน ตั้งเป้าหมายให้เจนจัดว่า จะวิ่งเพื่อสุขภาพ หรือ วิ่งเพื่อการแข่งขันชิงชัย แล้วกำหนดแผนการให้สมควร หมั่นซ้อม รวมทั้งทำต่อเนื่องอปิ้งบ่อย แบบค่อยๆเป็น ค่อยๆไป ก็จะสามารถช่วยให้การวิ่งมีการปรับปรุง สามารถวิ่งได้ตามจุดมุ่งหมายโดยไม่มีการบาดเจ็บมารบกวน