ความฉลาดทางอารมณ์และเข้าสังคมเป็นนั้นมีความสำคัญไม่น้อยไปกว่าเด็กเก่ง เด็กดี ครอบครัวที่เตรียมต้อนรับลูกน้อยที่กำลังจะลืมตาดูโลก ไม่ต้องสงสัยเลยว่าอยากให้ลูกเกิดมาเป็นเด็กเลี้ยงง่าย อารมณ์ดี มีเสน่ห์เป็นที่รักของคนอื่น มาดูกันว่าพ่อแม่มือใหม่ควรทำอย่างไรบ้าง
ทารกเกิดมามีทักษะการเข้าสังคมตามธรรมชาติ ตั้งแต่ 2-3 สัปดาห์หลังคลอด เด็กทารกชอบมองหน้าคนมากกว่ามองวัตถุ เมื่ออายุ 2 เดือนเด็กเริ่มเผยรอยยิ้มแสนหวานเป็นครั้งแรก พูดเสียงอ้อแอกระตือรือร้นที่จะรู้จักผู้คนใหม่ พยายามจ้องตาเลียนแบบอยู่เสมอ พ่อแม่ควรสังเกตว่าลูกน้อยต้องการอะไรและตอบสนองรวดเร็วเพื่อให้เด็กมีความสุขและอารมณ์ดี เมื่อเด็กขยับปากส่งเสียงร้องและยิ้มออกมาเพื่อสื่อสารกับพ่อแม่ ถ้ายิ้มตอบกลับไปทำให้เด็กรู้สึกว่ามีความเป็นมิตรและมีความสุข ปลูกฝังความรู้สึกไว้วางใจและอยากผูกมิตรกับคนอื่น
ยิ่งพ่อแม่เอาใจใส่ให้ความสนใจลูกมากเท่าไร เด็กทารกจะมีพัฒนาทางสังคมและสติปัญญาเร็วขึ้นเท่านั้น สังเกตว่าลูกน้อยยิ้มเพราะอะไร บอกความแตกต่างได้ว่าลูกมีความสุข ผ่อนคลาย หรือดีใจที่ได้รู้จักเพื่อนใหม่ เมื่ออายุ 6 เดือนเด็กแยกแยะได้แล้วว่าใครเป็นพ่อแม่ ใครเป็นญาติ เด็กน้อยมักจะยิ้มกว้างที่สุดเวลาแม่อุ้ม เวลานี้ควรทำความรู้จักนิสัยใจคอของลูกน้อยโดยสังเกตว่าเด็กบางคนไม่กลัวคนแปลกหน้า บางคนระมัดระวังตัวมากขึ้นแม้จะอยู่กับปู่ย่าตายาย ต้องรอให้อารมณ์ดีมีความสุขลูกน้อยจึงจะเต็มใจเข้าสังคมมากขึ้น
การกระตุ้นให้ลูกน้อยเข้าสังคมมากขึ้นควรเริ่มจากเด็กวัยเดียวกัน แม้ว่าเด็กอายุ 10 เดือนยังไม่ถึงวัยเริ่มเล่นด้วยกันอย่างจริงจัง แต่เด็กจะสังเกตและเรียนรู้จากกันและกัน เห็นคนอื่นคลานก็คลานตามไปด้วย ทารกมักจะจ้องมองและเลียนแบบพี่น้องที่อายุมากกว่า ทั้งการเดิน การกิน และการพูด สนใจเสียงหัวเราะของเด็กโตเป็นพิเศษ เห็นได้จากเด็กเล็กๆ วัย 7 เดือนที่พยายามทรงตัวยืนเลียนแบบพี่ๆ ทั้งที่ตัวเองยังไม่พร้อม หลังจากนั้นจะเริ่มเลียนแบบผู้ใหญ่ในครอบครัวที่อยู่กับเด็กเป็นประจำ ส่วนมากจะเป็นผู้ใหญ่ที่เด็กรู้สึกปลอดภัยและเข้าใกล้ได้อย่างสนิทใจโดยครั้งแรกๆ พ่อแม่จะต้องอยู่ในสายตาของเด็กตลอดเวลา เมื่อลูกผ่านด่านคนคุ้นเคยไปแล้ว ค่อยๆ ขยายวงสังคมออกไปเป็นเพื่อนบ้านและเพื่อนของพ่อแม่
เมื่อเด็กน้อยเริ่มสบตาและยิ้มให้คนแปลกหน้า ถือว่ามีพัฒนาทางทักษะการเข้าสังคมซึ่งพ่อแม่ควรช่วยกระตุ้นให้ลูกน้อยได้รู้จักคนแปลกหน้ามากขึ้นด้วยการจัดงานเลี้ยงครอบครัว ฝึกให้เด็กไม่ตื่นกลัวเมื่ออยู่กับคนมากๆ ยิ่งได้ทำกิจกรรมสนุกๆ ร่วมกับผู้อื่นมากเท่าไร ลูกก็จะยิ่งอารมณ์ดีขึ้นและตื่นกลัวน้อยลง
สำหรับเด็กเล็กอายุไม่กี่เดือนยังไม่จำเป็นต้องออกจากบ้าน แค่พ่อแม่กลับจากทำงานเข้าประตูบ้านมาให้คุณแม่ทักทายอย่างอารมณ์ดี หรือหยิบตุ๊กตาหลายๆ ตัวมาเล่นด้วยกัน จัดงานเลี้ยงสมมติแสดงให้ลูกเห็นและเลียนแบบพฤติกรรมการเข้าสังคมอย่างค่อยเป็นค่อยไป สอนให้ลูกอยู่เป็น ไม่เขินอายคนแปลกหน้ามีบุคลิกที่มีเสน่ห์มั่นใจในตัวเอง